ซุ้มไก่มั่นใจ ไก่ชน เป็นซอฟต์พาวเวอร์ระดับโลกได้ หากรัฐหนุนเต็มที่ ชี้เป็นวิถีชีวิตของไทยแต่โบราณ กลับถูกตราหน้าเป็นการพนัน ลั่นกระตุ้นเศรษฐกิจได้
จากกรณีที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ลงนามเมื่อวันที่ 24 ก.พ.66 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่องซักซ้อมแนวทางการอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน ประเภทให้สัตว์ต่อสู้หรือแข่งขันได้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ได้ออกมาเสนอแนวความคิดที่จะผลักดันกีฬาแข่งสัตว์ต่าง ๆ อาทิ วัวชน ไก่ชน ปลากัด และม้าแข่ง ให้กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของไทยให้เป็นที่สนใจของชาวต่างชาติมากขึ้น ซึ่งกลายเป็นกระแสสังคม และสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากนั้น
นายวรชิต แพงไพรี เจ้าของซุ้มไก่ชน “มะพร้าวทองฟาร์ม” ซึ่งเป็นซุ้มไก่ชนชื่อดังเมืองโคราช ตั้งอยู่ในชุมชนวัดศาลาลอย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กีฬาไก่ชนถือว่าเป็นวิถีชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ แต่ต้องถูกจำกัดไม่ให้เติบโตมากเพียงเพราะถูกตราหน้าว่าเป็นการพนัน
ซึ่งทำให้เสียโอกาส ในการพัฒนาสายพันธุ์ไก่ชนไทยเป็นอย่างมาก แต่เมื่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมาผลักดันกีฬาไก่ชน รวมทั้งกีฬาแข่งขันสัตว์อื่น ๆ ให้กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้มาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นก็ทำให้คนในวงการไก่ชนต่างดีใจเป็นอย่างมาก
เพราะไก่ชน สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน เช่น ชาวนาก็สามารถนำข้าวมาขายให้คนเลี้ยงไก่ชนได้ คนสานสุ่มก็ขายสุ่มได้ ชาวบ้านก็สามารถจับเงินแสนเงินล้านได้จากการขายไก่ชนเก่ง ๆ เป็นต้น แต่การจะมีไก่เก่ง ก็ต้องมีสนามชนไก่ให้เขานำไก่ไปโชว์ฝีมือด้วย ก็เหมือนนักมวย ต้องมีเวทีต่อยถึงจะดัง ไก่ชนก็เหมือนกัน ก็ต้องมีสนามไว้ชน
เพราะถ้าไม่มีสนามไว้โชว์ความเก่ง ไก่ก็จะไม่มีราคาเลย ก็จะเป็นแค่ไก่เนื้อธรรมดา ๆ ที่นำไปชั่งขายกิโลกรัมละไม่กี่สิบบาทเท่านั้น แต่ถ้ามีสนามให้เขาได้โชว์ความเก่ง ซึ่งความเก่งจะเป็นตัวชี้วัดมูลค่าของไก่ชน บางตัวอาจมีราคาหลักพัน แต่บางตัวอาจมีราคาถึงหลักหมื่น หลักแสน หรือหลักล้านบาท
ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป ดังนั้นรัฐบาลก็ควรที่จะส่งเสริม ให้มีสนามชนไก่ที่ได้มาตรฐานเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้ ไม่ต้องรองบประมาณจากรัฐบาลเลย ขอให้ผลักดันอย่างถูกวิธีก็พอ ส่วนคนเลี้ยงไก่ชนมีอยู่พร้อมแล้วทั่วประเทศ ถ้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างจริงจัง ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน ซึ่งรัฐบาลก็สามารถนำรายได้ส่วนนี้ ไปเข้าระบบเพื่อจัดเก็บภาษีเข้ารัฐได้อย่างมหาศาล
นอกจากจะทำให้คนในแวดวงไก่ชนได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้แล้ว เมื่อมีคนเดินทางมาเที่ยวชมไก่ชนมาก ๆ ทั้งจากทัวร์ต่างประเทศ และคนไทยด้วยกันเอง ก็จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องการซื้อขายไก่ชน การเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ของไก่ชน การพัฒนาสายพันธุ์ การเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ซื้อของที่ระลึกนำติดตัวกลับบ้านได้ ซึ่งถือว่าไก่ชนเป็นซอฟต์เพาเวอร์ระดับโลกได้เป็นอย่างดี
ส่วนใครที่บอกว่าการชนไก่ เป็นการทรมานสัตว์นั้น จริง ๆ แล้วมันเป็นการต่อสู้ของเขาต่างหาก เพราะเอกลักษณ์ของไก่ชนคือการต่อสู้กัน ถ้าไม่ต่อสู้กันก็จะเหมือนไก่เนื้อทั่วไป ไม่มีราคาถึงหลักล้านบาทแน่นอน ขอให้เข้าใจในส่วนนี้ด้วย ซึ่งคนเลี้ยงไก่ชนไม่ได้โหดร้าย เขาต้องดูแลไก่ชนที่เขารัก หวงแหนยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก บางคนถึงกับนอนอยู่กับไก่ชนที่เขารักเลยก็มี ดังนั้นเขาจะอยากเอาไก่ของเขาไปทรมานหรือ ไก่ชนเขาต่อสู้ก็ต้องมีได้รับบาดเจ็บเป็นธรรมดา แต่คนเลี้ยงไก่ก็มีวิธีรักษาของเขาอยู่ เพราะมันคือวิถีชีวิตของคนเลี้ยงไก่ชน
ติดตามข่าวสารไก่ชนได้ที่ : Kaichon888.co หรือไลน์แอด @cockfight888