อายุการใช้งานของแม่พันธุ์ม้าล่อ

อายุการใช้งานของแม่พันธุ์ม้าล่อ แม่พันธุ์จะจ่ายลูกดีในช่วงไหนของชีวิต

การเพาะผสมพันธุ์ไก่พม่าม้าล่อออกมาให้เก่งหลายท่านอาจจะบอกว่าง่ายนิดเดียว แค่เรามีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดีเคยมีประวัติให้ลูกเก่งมาผสมกันรอดูลูกอีกแปดเก้าเดือนก็ได้รู้ผลแล้ว มันก็มีส่วนจริงเป็นบางส่วน แต่ในการที่เราจะคัดเลือกไก่ม้าล่อที่จะมาเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์นั้นมันยังมีอีกหลายปัจจัยด้วยกันครับ และไก่พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ก็มีช่วงหนึ่งของของชีวิตที่จะถ่ายทอดสายเลือดความเก่งออกมาได้เต็มที่ ซึ่งตรงจุดนี้หลายท่านอาจจะละเลยหรือมองข้าม เพราะถ้ามันทำได้ง่ายอย่างข้างต้นก็ไม่ต้องซื้อไก่เล่นกันแล้ว

แค่หาพ่อดีแม่ดีมาผสมกันก็พอ เท่าที่ท่านเพาะกันมาแล้วเป็นอย่างไรหละอายุการใช้งานของแม่พันธุ์พม่าม้าล่อ ก่อนที่เราจะนำไก่สาวขึ้นมาทำเป็นแม่พันธุ์ทดแทนแม่พันธุ์หลักก็ต้องคัดเลือกกันอย่างดีก่อนอันดับแรก ดูจากประวัติสายเลือด สายพ่อสายแม่ต้องชัดเจนมีประวัติให้ลูกเก่งและเครือญาติต้องเก่งเหมือนกัน มีเชิงชนลีลา ความแม่นคม เหมือนกัน เรียกว่ามีความนิ่งในสายเลือด เก่งทั้งตระกูลอันดับที่สอง เมื่อเรารู้ประวัติชัดเจนแล้ว เราก็มาคัดกันที่ตัวเมียที่มีรูปร่างดี หน้าตาสวย แข้งกลมมนน้ำขนดี ใบปีกยาวใหญ่ กระดูกโครงสร้างโต จับสวย น้ำหนักดี ได้รอย ไก่สาวที่จะนำมาทำเป็นแม่พันธุ์ที่ดี จะต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 1.8 กิโลกรัม ขึ้นไป

เพราะจะให้ลูกได้รอยมาตรฐานอันดับที่สาม หลายท่านถกเถียงกันเรื่องของการคัดตัวเมียในข้อนี้มาก เพราะว่าหลายคนต่างคิดต่างเห็นต่างกันมาก ผลที่ได้ก็ต่างกัน สำหรับแล้วเลือกใช้ทั้งสองทางร่วมกัน หนึ่งนั้นคือ คัดตัวเมียโดยดูจากตัวผู้ครอกเดียวกันว่าเก่งมากน้อยขนาดไหน เก่งกี่ตัว เก่งระดับไหน อันนี้มักไม่พลาด เพราะไก่ตัวเมียบางทีเอามาเตะกันดู ตัวตีเก่งดันให้ลูกไม่เก่งก็มี ตัวตีไม่เก่งให้ลูกเก่งก็มีเช่นเดียวกัน แต่ถ้าจะให้มั่นใจยิ่งกว่าเดิม หลังจากเราเช็คตัวผู้ครอกเดียวกันแล้วพอใจแล้ว

เราก็ลองเอาตัวเมียมาเตะกันดู ตัวเมียที่จะเตะกันดูรู้เรื่องเลยก็ต่อเมื่อกำลังเลี้ยงลูก เพราะตัวเมียที่เป็นแม่ไก่แล้วจะดุมาก สู้แทบทุกตัว ทีนี้จะทำให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้นรับประกันได้เลยว่าตัวเมียที่ผ่านการคัดมาถึงสามขั้นตอนนี้จะให้ลูกเก่ง 90 เปอร์เซ็นขึ้นไป อายุของไก่ที่เราจะนำมาทำเป็นแม่พันธุ์นั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน อ่านให้ดี ๆ นะครับ ตรงนี้สำคัญ ไก่ที่เราจะนำมาทำแม่พันธุ์นั้นหลายท่านเห็นตรงกันคือไข่ครอกที่สอง โดยธรรมชาติไก่ตัวเมียจะไข่ครอกแรกตอนอายุประมาณ 6-8 เดือน แล้วก็เลี้ยงลูก จะไข่ครอกที่สองก็อายุประมาณ 10-12 เดือน

ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังพอดี การนำไก่สาวที่ไข่เร็วมาเป็นแม่พันธ์ก็มีข้อเสียเหมือนกัน เพราะเวลาฟักไข่มันจะอดอาหารทำให้การเจริญเติบโตชะงักลงได้ ถ้าไก่สาวน้ำหนักถึงเกณฑ์ก็พอหยวน ๆ กันได้ ไก่ตัวใหญ่ไข่ใบใหญ่ก็ให้ลูกใหญ่ครับ ไข่ครอกแรกหลายท่านไม่เอา แต่เท่าที่ทดลองทำมา ไข่ครอกแรกก็ให้ผลดีได้ลูกเก่งไม่แพ้ครอกอื่น ๆ เช่นเดียวกันครับ และตัวแม่พันธุ์ที่จะจ่ายลูกดีจะมีอายุระหว่าง 1-4 ปี ถ้ามากกว่านั้น เปอร์เซ็นจำนวนเก่งของลูกจะลดลง ไม่ต้องเถียง ดูเอาเองแล้วกันคนแก่มีลูกออกมาเป็นอย่างไร ก็ประมาณนั้นแหละครับ ทีนี้ตาสว่างแล้วหรือยัง

แต่ก็ใช่ว่าเราจะทิ้งไปเลย เพราะตัวสำคัญ ๆ เราต้องเก็บไว้ เผื่อจะต้องดึงเลือดกลัถึงจะทำทุกอย่างตามที่กล่าวมาแล้ว หลายซุ้มฟาร์มก็ยังคงเจอปัญหาเปอร์เซ็นการให้ลูกเก่งของแม่พันธุ์อยู่ดี อันนี้จากประสบการณ์ผมมีคำตอบให้ครับ เอาตามหลักของความเป็นจริง ไก่เก่งเงินล้านย่อมเกิดตามท้องไร่ท้องนาเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าไก่ที่ได้อยู่ตามท้องไร่ท้องนามีความสมบูรณ์ตามธรรมชาติอย่างสูงที่สุด เมื่อไก่สายพันธุ์ดี เหล่ากอดีมีความสมบูรณ์ ย่อมถ่ายทอดสายเลือดได้ดี

ต่างจากไก่ซุ้มฟาร์มที่ถูกบังคับให้ไข่ เราจะเห็นตัวเมียบางตัวขนแทบไม่มีซักเส้น เนื่องเพราะจิกกินขนกัน หรือหลุดถ่ายขน แต่ยังไข่อยู่ พวกนี้ให้ลูกเก่งจำนวนน้อยตัวได้ เพราะร่างกายของไก่ต้องสร้างความสมบูรณ์ให้ตัวเองหลาย ๆ ด้าน ผิดจากไก่ที่มีความสมบูรณ์อยู่แล้ว เมื่อทำหน้าที่แม่พันธุ์ย่อมถ่ายทอดสายเลือดได้ดี อีกอย่างหนึ่งสำหรับท่านที่ใช้แม่พันธุ์พม่าลูกผสม เช่น พม่าง่อน ต้องใช้ในช่วงที่แม่พันธุ์อายุยังน้อย เพราะยีนเด่นของไก่ชนพม่ามาเร็วจะถ่ายถอดสายเลือดได้ดีในช่วงนี้

แต่ถ้าอายุมากขึ้นยีนง่อนจะเด่นขึ้น จะเห็นได้ว่า ลูกชุดแรก ๆ จะเก่ง เสต็ปเท้าดีเยี่ยม แต่พอทับไปเรื่อย ๆ เสต็ปลีลาหาย แต่เบอร์แข้งมาแทน นี้แหละคือต้นเหตุครับ บางท่านแก้ด้วย พ่อหนุ่มทับแม่แก่ พ่อแก่ทับแม่สาวก็พอช่วยได้ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือความสมบูรณ์ของพ่อพันธุ์ พ่อพันธุ์ที่จะนำมาผสมกับแม่พันธุ์แล้วถ่ายทอดสายเลือดได้ดีนั่นก็คือพ่อพันธุ์ต้องมีความสมบูรณ์แข็งแรงด้วย ยิ่งอยู่ในช่วงเลี้ยงชน เราใช้วิธีกดทับเอายิ่งดี ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเพาะไก่นั่นก็คือในช่วงฤดูหนาวครับ

แต่ทุกวันนี้ เราเล่นไก่กันทั้งปี ก็เลยมีการเพาะไก่กันทั้งปี ส่วนจะเพาะในช่วงเดือน กันยายน-เมษายน คือหน้าหนาวกับหน้าร้อน ส่วนหน้าฝนจะเพาะน้อยลง เพราะหน้าฝนลูกไก่เลี้ยงยาก

ติดตามข่าวสารไก่ชนได้ที่ Kaichon888.co หรือไลน์แอด @cockfight888