เข้าสู่ระบบ

ภูมิปัญญาเกี่ยวกับสัตว์ของไทยไก่ชนไทย

ภูมิปัญญาเกี่ยวกับสัตว์ของไทยไก่ชนไทย

 

ภูมิปัญญาเกี่ยวกับสัตว์ของไทยไก่ชนไทย

 

ภูมิปัญญาเกี่ยวกับสัตว์ของไทยไก่ชนไทย พัฒนามาจากไก่บ้านที่มีถิ่นกำเนิดในดินแดนแถบเอเชียตตะวันออกเฉียงใต้ 

 ไก่ชนไทย  พัฒนามาจากไก่บ้านที่มีถิ่นกำเนิดในดินแดนแถบเอเชียตตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อวิทยาศสาสตร์ว่า Gallus gallus Domesticus ไก่เป็นสัตว์เลี้ยงชองชาวนาไทยมานมนาน ไม่สามารถระบุหลักฐานได้แน่ชัดเพราะอาหารหลักของไก่ คือ ข้าวเปลือกและแมลงต่างๆ คนในในวัฒนธรรมข้าวจึงล้วนเลี้ยงไก่ควบคู่กับควายหรือวัวที่ใช้ในการทำนา ขณะเดียวกันธรรมชาติของไก่ตัวผู้นั้น มีความเป็นนักสู้ที่ชอบจิกตีกันเป็นประจำเด็กผู้ชายในอนาคตจึงนิยมนำไก่มาเล่นชนกันและพัฒนาเป็นการละเล่นพื้นบ้านและพนันไปในที่สุด โดยนิยมว่า ผู้ที่มีไก่ชนเก่งไว้ครอบครอง แสดงว่ามีบารมีและมีความเป็นลูกผู้ชาย ขณะเดียวกันไก่ชนในอุดมคติของนักเลงไทย ควรจะมีลักษณะ ” เชิงไทยไวพม่าหนังหนาแบบเวียดนาม” กล่าวคือ มีฝีมือในการชนไก่แบบไก่ชนสายพันธ์ุไทย มีความว่องไวแบบไก่ชนสายพันธุ์พม่า และมีความอดทนสูงแบบไกาชนสายพันธุ์เวียดนาม

ไก่ชนสายพันธุ์ไทย เป็นไก่ขนาดกลาง มีน้ำหนักประมาณ3กิโลกรัมมีลักษณะเด่นของจิตไก่สายพันธุ์ไทย คือ เป็นไก่กอกไก่ล็อคกดหัวจิกตี ขณะชนจะคลุกเข้าวงในเอาหัวมุดงัดปีกฝ่ายตรงข้าม แล้วหมุนเป็นวงกลมหาจังหวะจิกหัวฝ่ายตรงข้าม แล้วจะจิกกระโดดเตะ(ตี)

การละเล่นไก่ชนมีอยู่ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ดังปรากฎในตำนานนิทานและพงศาวดาร เช่นนางสิบสอง พระรถเสมีไก่ชนตัวเก่ง สามารถชนไก่ชนะเจ้าเมือง ชาวบ้านแถบอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เชื่อกันว่าไก่ชนพันธุ์ท้องถิ่นที่เรียกว่า ไกพระรถ สืบสายพันธุ์มาจากไก่พื้นเมืองโบราณในจังหวัดชลบุรีและฉะเทริงเทรา ที่เรียกว่า เมืองพระรถ ส่วนหลักฐานทางพงศาวดาร ปรากฎเรื่อวการชนไก่ของพระนเรศวรที่ชนะเป็นไก่ชนพันธุ์ไทย ที่เรียกว่า ไก่เหลืองหางขาวหรือไก่พระเจ้าห้าพระองค์ ชาวบ้านถือว่าไก่สายพันธุ์นี้เป็นไก่เจ้าไก่งามไก่สง่า ลักษณะ  คือ ปากขาวขาขาวเล็บขาว แต่ละภูมิภาคของไทยมีความนิยมไก่ชนสายพันธุ์แตกต่างกัน ดูได้จากสีขนและรรูปร่างลักษณะ ปัจจุบันสายพันธุ๋ไก่ชนที่ได้รับการับรองจากสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทยมี่ทั้งหมด 10 สายพันธุ์  ได้แก่

1..เหลืองหางขาว (พัฒนามาจากไก่อูแถบบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก)

2..ประดู่ห่างดำ (พัฒนามาจากอูแถบจังหวัดสุพรรณบุรี พระนคารศรีอธุยา ฉะเทริงเทรา กรุงเทพมหานคร สิงบุรี และอ่างทอง)

3.เขียวหางดำ (พัฒนามาจากไก่อูแถบจังหวัดชลบุรี  เรียกไก่พระรถ ทางอุตรดิตถ์ เรียกเขียวพาลี หรือเขียวพระยาพิชัยดาบหัก)

4.เทาหางขาว (มีแหล่งกำเนิดแถบจังหวัดตาก ชลบุรี(พนัสนิคม) เพรชบุรี(อำเภอบ้านแหลม)

5.นกแดงหางแดง (จังหวัดกาญจนบุรี พิษณุโลก นครสวรรค์ และพระนครศรีอยุธยา)

6.ทองแดงหางดำ (พบทั่วไปในจังหวัดเพรชบุรี ราชบุรี เพชรบุรี พระนครศรีอยึะชลบุรี)

7.นกกดหางดำ (มีถิ่นกำเนิดแถบจังหวัดนครสวรรค์ ราชบุรี เพชรบุรี  นครปฐม และกาญจนบุรี)

8.ลายหางขาว (เป็นไก่ที่มาจากแถบจังหวัดเชียงราย พะเยา เพรชบุรี)

9.เขียวเลาหางขาว (มีแหล่งกำเนิดแถบจังกำแพงเพชร เพชรบุรี  พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก เพชรบุรี)

10.ประดู่เลาหางขาว (เขตหนองจอก มีนบุรี กรุงเทพมหานคร นครศรีอยุธยา เพชรบุรี สุพรรณบุรี กำแพงเพชร สุโขทัย ประจวบคีรีขีนธ์)

 

ลักษณะเบื้องต้นไก่ชน คือ ต้องแข็งแรง รูปร่างดี เชิงดีตีเจ็บหลบหลีกเก่ง ลักษณะไก่ชนที่ต้องมี ลักษณะหน้าหงอนบาง กลางหงอนสูง ปลายกด กระหม่อมสระย้า หน้านกยูง ไหล่ยก อกตั้งหางพุ่งยาวนอกจากนี้ ไก่ชนต้องมีช่วงคอที่ใหญ่ ลำตัวสูงโปร่ง แข้งยาวเรียวมีเล็กมีเกล็ดใหม๋เต็ม นิ้วเรียวมีเกล็ดประมาณ 20 เกล็ด ตามกลมใสคล้ายตาเหยี่ว มีสีสันถูกโฉลกคือ สีปากกับสีแข้งต้องเหมือนกันเช่น ปากขาว แกข้งขาว เป็นต้น

ไก่ชนที่ปลดระวางแล้วมักได้เป็นะพ่อพันธุ์ ดังนั้น การเล่นไก่ชนจึงเป็นการคัดเลือกสายพันธุืไก่โดยวิธีธรรมชาติ กล่าวได้ว่าการที่ไก่พื้นเมืองไทยปจจุบันแข็งแรงต้านทานโรคเลี้ยงลูกเก่ง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการคัดเลือกไก่สายพันธุ์ดีจากการเล่น”ไก่ชน”ของคนไทยนั้นเอง

นอกจากนี้ผูัเลี้ยงไก่ชนต้องมีความรู้คความเข้าใจ วงจรชีวิตไก่ เป้นอย่างดีไก่หนุ่มที่จะนำมาฝึกฝนเป็นไก่ชนต้องมีอายุ 8 เดือนขึ้นไร การเข้าค่ายฝึกฝนดำเนิดไปอย่างเข้มข้น โดยใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ประกอยด้วยการกราดไก่ การวิ่งสุ่ม  การกระโดดบ่อ การล่อไก่ การเตะกระสอบ การลงนวมคู่และการซ้อมคู่เป็นต้น

ติดตามข่าวสารไก่ชนได้ที่ สืบสานไก่ชน หรือไลน์แอด @cockfight888 

@cockfight888
LINE : @cockfight888